ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน

ฟันขาวสวย ช่วยสร้างเสน่ห์ให้รอยยิ้ม สร้างความมั่นใจในการเข้าสังคม นอกเหนือจากไปฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรมแล้ว ยังสามารถฟอกสีฟันที่บ้านได้ด้วยตัวเอง วิธีการก็ง่าย ไม่มีอันตราย และได้ผลพึงพอใจ จึงได้รับความนิยมมากขึ้นทุกทีๆ สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะฟอกสีฟันที่บ้านครั้งแรก ลองมาดูขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้านก่อน

การฟอกสีฟันที่คลินิกทันตกรรม เมื่อนึกถึงการฟอกสีฟัน อันดับแรกเรามักจะนึกถึงการฟอกสีฟันที่คลินิก โดยทันตแพทย์ เพราะมั่นใจได้ว่าจะเป็นการฟอกสีฟันที่ถูกต้องตามหลักวิชาการทันตกรรม ปลอดภัย ไม่มีอันตราย และที่สำคัญคือ เห็นผลชัดเจนหลังฟอกสีฟัน ทั้งนี้เป็นเพราะทันตแพทย์ใช้น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นแต่ปลอดภัย และยังมีการฉายแสงที่ช่วยกระตุ้นปฏิกิริยา ทำให้น้ำยาฟอกสีฟันทำงานอย่างรวดเร็วและหากเกิดผลข้างเคียงเช่น เสียวฟัน ก็มีทันตแพทย์ให้คำปรึกษาและแก้ไขให้ได้

การฟอกสีฟันเองที่บ้าน

แม้ว่า การฟอกสีฟันที่คลินิกโดยทันตแพทย์ จะได้ผลดีและรวดเร็ว แต่การฟอกสีฟันเองที่บ้านก็เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะเป็นสิ่งที่ควรทำต่อจากการฟอกสีฟันที่คลินิก เพื่อรักษาสภาพฟันขาวสวยอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องไปฟอกสีฟันที่คลินิกทันตแพทย์อีก

การฟอกสีฟันด้วยตัวเองเหมือนหรือต่างกับการฟอกสีฟันที่คลินิก

การฟอกสีฟัน ไม่ว่าจะฟอกโดยทันตแพทย์ที่คลินิกหรือฟอกสีฟันด้วยตัวเอง จะเป็นการฟอกด้วยน้ำยา หรือเจลฟอกสีฟัน ซึ่งเป็นสารผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หรือคาร์บาไมด์เปอร์ออกไซด์ที่ไม่มีปฏิกิริยาทำลายผิวฟัน แต่จุดต่างอยู่ที่ ในการฟอกสีฟันที่คลินิกซึ่งทำ โดยทันตแพทย์ น้ำยาที่ใช้ฟอกสีฟันจะมีความเข้มข้นสูงกว่า คือประมาณ 35% ส่วนน้ำยาที่ใช้ฟอกสีฟันด้วยตัวเอง จะมีความเข้มข้นต่ำเพียงแค่ 10-20% เท่านั้น ประสิทธิผลที่ได้จึงต่ำกว่า ดังนั้น การฟอกสีฟันทบ้าน จึงต้องมีการฟอกซ้ำอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง จึงจะมีผลที่ใกล้เคียงกับฟอกที่คลินิก

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การฟอกฟันที่คลินิกได้ผลดีและเร็วคือ จะมีการใช้แสงเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งแสงที่ใช้มีหลายอย่าง เช่น แสงเย็น (Cool light) แสงแอลอีดี (LED) หรือแสงเลเซอร์ (Laser)

อุปกรณ์ที่ต้องมีเมื่อจะฟอกสีฟันที่บ้าน

ถาดฟอกสีฟัน หลังจากฟอกสีฟันที่คลินิกเสร็จ ทันตกรรมจะพิมพ์ปากเพื่อส่งไปทำถาดครอบฟันที่พอดีและเป็นของเฉพาะบุคคล ซึ่งถาดฟอกสีฟันที่ทำขึ้นเฉพาะนี้จะใช้งานได้ดีกว่า การหาสิ่งทดแทน และยังปลอดภัยขณะใช้ น้ำยาไม่ล้นออกจากถาดไปทำลายเนื้อเยื่อรอบฟัน เช่น เหงือก กระพุ้งแก้ม เป็นต้น เพราะน้ำยาปลอดภัยสำหรับฟันแต่มีผลต่อส่วนที่ไม่ใช่ฟัน

น้ำยาฟอกสีฟัน สามารถซื้อจากคลินิกที่ไปทำการฟอกสีฟันครั้งแรก ซึ่งเป็นน้ำยาที่มีความเข้มข้นเหมาะสมสำหรับการฟอกสีฟันเองที่บ้าน
ไซริงค์สำหรับฉีดน้ำยาใส่ถาดฟอกสีฟัน

สำลีชุบน้ำ เตรียมไว้เผื่อกรณีต้องเช็ดส่วนที่ล้นจากถาด

ขั้นตอนการฟอกสีฟันที่บ้าน

1.ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ฟัน เพื่อนำแบบที่ได้มาทำเป็นถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคล

2.เมื่อได้ถาดฟอกสีฟันเฉพาะบุคคลแล้ว ทันตแพทย์จะสอนวิธีการใช้งาน พร้อมทั้งให้น้ำยาฟอกสีฟันสำหรับใช้ที่บ้านไป

3.ก่อนเริ่มการฟอกสีฟัน จำเป็นที่จะต้องแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาดก่อนทุกครั้ง เพราะหากเศษอาหารหรือสิ่งสกปรกติดอยู่บนผิวฟัน สารฟอกสีฟันอาจไม่สามารถเข้าถึงบริเวณนั้น ทำให้เกิดจุดหรือเงาที่ไม่สม่ำเสมอ หลังจากนั้นหยอดเจลฟอกสีฟันที่ให้ไปลงบนที่ถาดฟอกสีฟันตามที่คุณหมอแนะนำ โดยให้บีบเจลฟอกสีฟันขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียวต่อฟันหนึ่งซี่และให้ทำเฉพาะฟันหน้า และฟันกรามน้อยเท่านั้น

4.นำถาดครอบฟันมาใส่ให้พอดีกับฟัน หลังจากใส่ถาดแล้ว จะต้องดันถาดให้แนบเข้ากับผิวฟัน พยายามกำจัดเจลส่วนเกินที่ซึมออกจากขอบถาดฟอกสีฟัน โดยสามารถใช้ผ้าก๊อซหรือสำลีเช็ดออกได้เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อเหงือก สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรกลืนเจลฟอกสีฟัน พยายามบ้วนทิ้งให้หมด แล้วใส่ถาดฟอกสีฟันทิ้งไว้ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์แนะนำ

5.เมื่อครบกำหนดระยะเวลา ให้ถอดถาดฟอกสีฟันออก จากนั้นก็แปรงฟันตามปกติ

6.ล้างทำความสะอาดถาดฟอกสีฟัน พร้อมทั้งจัดเก็บให้เรียบร้อยโดยไม่ต้องแช่น้ำ

7.ควรงดสูบบุหรี่ เนื่องจากสารนิโคตินจะทำให้ฟันหมองและเหลืองได้ หากเลี่ยงไม่ได้ให้บ้วนปาก และรีบแปรงฟันทัน

8.ควรงดเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม รวมทั้งอาหารที่มีรสจัดและมีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม ไวน์แดง เพราะสีจะไปสะสมตามผิวฟันที่พึ่งทำการฟอกมา หากเลี่ยงไม่ได้ให้บ้วนปาก และรีบแปรงฟันทันที

9.แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้สะอาดและถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-ก่อนนอน

10.การฟอกสีฟันเองที่บ้าน สามารถทำได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ไม่มีอันตรายใดๆ ต่อฟันและช่องปาก

แม้จะเป็นการฟอกสีฟันที่บ้านก็ควรคงมาตรฐานเบื้องต้นเรื่องความสะอาดและสุขภาพปาก ด้วยการขูดหินปูน และไม่ทำการฟอกสีฟันขณะที่ยังมีปัญหาแผลในปากและฟัน

ทำความสะอาดถาดฟอกสีฟันและเช็ดจนแห้งก่อนที่จะใช้ไซริงค์ฉีดน้ำยาฟอกสีฟันลงไปในถาดในปริมาณพอดีตามคำแนะนำของทันตแพทย์
ครอบถาดเข้ากับฟันอย่างระมัดระวัง ไม่ให้น้ำยาที่ใส่กระฉอกหรือล้นออกมา ถ้ามีการล้นให้รีบเช็ดด้วยสำลีชุบน้ำ

ทิ้งไว้ตามเวลาที่ได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์หรือมีฉลากกำกับไว้ เพื่อให้น้ำยาทำปฏิกิริยาฟอกฟันให้ขาว
เมื่อครบกำหนด ถอดถาดฟอกสีฟันออก ทำความสะอาด บ้วนปากโดยไม่ต้องแปรงฟัน

อาจมีอาการเสียวฟันแม้น้ำยาจะเข้มข้นน้อยแล้วก็ตาม แต่ถ้าหายภายใน 1-2 วันถือว่าปกติ หากนานกว่านั้น ควรปรึกษาทันตแพทย์
การฟอกสีฟันเองที่บ้าน อาจได้ฟันขาวในระดับหนึ่ง ฟอกครั้งเดียวอาจยังไม่ได้ระดับที่ต้องการ จึงต้องมีการฟอกซ้ำอีก ในเวลาใกล้ๆ เพื่อให้ฟันขาวขึ้นจนถึงระดับที่ต้องการ

ข้อดี การฟอกสีฟันที่บ้าน

  • ประหยัดเวลาและงบประมาณ เพราะไม่ต้องเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการทำเองถูกกว่า
  • น้ำยาฟอกสีฟันที่มีความเข้มข้นเพียง 10-20% มีความเสี่ยงที่จะเสียวฟันน้อยกว่าน้ำยาเข้มข้น
  • ยืดอายุฟันขาวได้ต่อไป เพราะทำซ้ำบ่อยได้ ตามเวลาที่กำหนดเอง

ข้อควรระวังในการฟอกสีฟันที่บ้าน

  • ต้องศึกษาวิธีการให้ดี และระมัดระวังเวลาใส่น้ำยา ไม่ให้ล้นจนไปสัมผัสส่วนอื่นในปาก
  • ไม่เสี่ยงใช้อุปกรณ์ทดแทน หรือหาซื้อเองตามท้องตลาดโดยไม่รู้จริง เพราะแม้แต่อุปกรณ์ที่คล้ายถาดฟอกสีฟันอย่างรีเทนเนอร์แบบใส ยังไม่สามารถใช้แทนได้เลย เพราะถูกสร้างขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์ที่ต่างกัน จึงไม่เหมือนกัน
  • การฟอกสีฟันเองที่บ้าน ทำได้และดีสำหรับคนที่อยากมีฟันขาวสวย แต่ควรทำอย่างมีความรู้และทำภายใต้คำแนะนำของทันตแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง